ตอนยืมเราเป็นพระเจ้าแต่ พอตอนทวงลูกหนี้กลายเป็นพระเจ้าแทน สมัยก่อนเขาว่าถ้ากู้ยืมเงินเกิน 2000 บาทต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ เวลาใครมายืมเงินเราก็เอาเอากระดาษมาเขียนแล้วก็ให้คนยืมเซ็นชื่อ ที่เป็นแบบนั้นเพราะ กฏหมายเขาวางหลักเอาไว้าว่าถ้ากู้ยืมเงินเกิน 2000 บาท จะต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือถึงจะฟ้องร้องเป็นคดีความได้ (จำหลักกฏหมายข้อนี้เอาไว้ก่อนนะครับ)
ที่นี้หลักฐานทีเป็นหนังสือ ที่ว่ามันก็คือหนังสือ สัญญากู้ยืมนั่นเอง แต่ปัญหาก็คือเวลาคนที่เรารู้จักมายืม ในความเป็นจริงมันก็น้อยมากที่เราจะให้เขาเซ็นชื่อ หรือทำเอกสารกู้ยืมกัน ทีนี้ปัญหามันก็เกิด ถ้ายอดเงินมันเกิน 2000 บาทซึ่งมันก็ทำให้เราไปฟ้องศาลไม่ได้ หนี้ก็กลายเป็นหนี้สูญไป
แต่อย่างไรก็ดีด้วยความที่ปัจจุบันเทคโนโลยีมันก้าวหน้าขึ้น มันก็เกิดสิ่งที่เรียกว่าการแชทเกิดขึ้น ปัญหาที่ต้องขบคิดคือ การที่เราพิมพ์ ข้อความผ่านแชทเนี่ยมันสามารถเป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินได้หรือเปล่า
โดยหลักแล้วอย่างที่ได้กล่าวไว้ว่า จะฟ้องร้องได้มันต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ แชทมันก็ไม่ได้เป็นหลักฐานที่เป็นหนังสือซักหน่อย จะฟ้องได้อย่างไร
ซึ่งคำตอบก็คือมันฟ้องได้นะครับ เพราะอะไร?
เพราะมันมีกฏหมายเฉพาะซึ่งก็คือ พรบ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 ที่วางหลักไว้ว่า "ถ้าได้มีการจัดทำข้อความขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าข้อความนั้นได้ทำเป็นหนังสือ"
การที่เราแชทส่งข้อความกัน มันก็ถือเป็นหนังสือนั่นเอง ก็เท่ากับว่าเราเอาไปฟ้องร้องได้ หรือว่าง่ายๆคือมันถือเป็นสัญญากู้ยืมเงินนั่นเอง
ดังนั้นเวลายืมเงินก็คุยกันเป็นแชทนะครับ อย่าโทรคุยเดี๋ยวมันจะฟ้องไม่ได้
ปล. คำว่าหนังสือ เป็นภาษากฎหมายนะครับไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นเล่มๆ เอกสารแผ่นเดียวก็ถือว่าเป็นหนังสือได้